นาโตเจอปัญหากระสุนราคาแพง หวั่นกระทบการยกระดับความปลอดภัย
เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของกลุ่มพันธมิตรนาโต (NATO) เตือนว่า ราคากระสุนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านกลาโหมของกลุ่มพันธมิตรที่สูงขึ้นไม่ได้นำไปสู่ความปลอดภัยที่มากขึ้น และเรียกร้องให้มีการลงทุนภาคเอกชนมากขึ้นในบริษัทด้านกลาโหม
พลเรือเอกร็อบ บาวเออร์ ประธานคณะกรรมาธิการฝ่ายทหารของนาโต กล่าวว่า “ราคาของยุทโธปกรณ์และกระสุนพุ่งสูงขึ้น ตอนนี้เราจ่ายเงินมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อผลเท่าเดิม”
"ยูเครน" โจมตีหนักคำพูดจาก สล็อตวอเลท! ทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศในไครเมียสำเร็จ
น้ำท่วมลิเบียตายทะลุหมื่น ภัยธรรมชาติหรือความผิดพลาดของมนุษย์?
นาซาแนะเม็กซิโกเปิดทาง ให้นักวิทย์ตรวจสอบซากมัมมี่มนุษย์ต่างดาว
เขาเสริมว่า “นั่นหมายความว่าเราไม่สามารถแน่ใจได้ว่า การใช้จ่ายด้านกลาโหมที่เพิ่มขึ้นจะนำไปสู่ความปลอดภัยที่มากขึ้น”
นาโตกำลังกดดันให้เพิ่มการผลิตด้านกลาโหม เพื่อตอบสนองความต้องการอาวุธและยุทโธปกรณ์ที่เพิ่มสูงขึ้นนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครน เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรไม่เพียงแต่เร่งส่งความช่วยเหลือทางทหารไปยังยูเครนเท่านั้น แต่ยังเพิ่งตุนยุทโธปกรณ์ในคลังของตนเองด้วย
ข้อกังวลหลักประการหนึ่งคือ การขาดแคลนกระสุนปืนใหญ่ 155 มม. ซึ่งยูเครนใช้มากถึง 10,000 นัดต่อวัน
ก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ เยนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโตเตือนว่า ยูเครนกำลังผลาญกระสุนปืนเร็วกว่าที่ชาติตะวันตกจะผลิตได้
บาวเออร์กำลังผลักดันให้มีการลงทุนภาคเอกชนในด้านกลาโหมมากขึ้น เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต โดยเรียกร้องให้กองทุนบำเหน็จบำนาญและธนาคารหยุดตีตราการลงทุนด้านกลาโหมว่าผิดจรรยาบรรณ
“เสถียรภาพในระยะยาวจำเป็นต้องมีชัยเหนือผลกำไรระยะสั้น ดังที่เราได้เห็นในยูเครน สงครามเป็นเหตุการณ์หนึ่งของสังคม” เขากล่าว พร้อมเสริมว่า การลงทุนดังกล่าวถือเป็นผลประโยชน์เชิงกลยุทธ์ของภาคเอกชนเช่นกัน
บาวเออร์ยังกดดันผู้นำธุรกิจให้เร่งขยายกำลังการผลิต อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่า การขาดแคลนกระสุนนี้ ไม่มีผลกับความก้าวหน้าของยูเครนในการตอบโต้รัสเซีย
“สาเหตุที่ต้องใช้เวลาก็เพราะมันอันตรายอย่างยิ่ง เพราะมีทุ่นระเบิดจำนวนมหาศาลอยู่ในเขตทุ่นระเบิด โดยมีทุ่นระเบิดถูกฝังอยู่ 5-6 ลูกต่อตารางเมตร” เขากล่าว โดยบอกว่า ยูเครนสามารถเดินหน้าไปได้ประมาณ 200-300 เมตรต่อวัน
เรียบเรียงจาก Reuters
ภาพจาก Lionel BONAVENTURE / AFP