ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา มีสัญญาณความขัดแย้งภาย รัสเซียและกลุ่มแวกเนอร์ ล่าสุดสถานการณ์ดูเหมือนว่าจะยิ่งลุกลามบานปลายเมื่อ เยฟเกนี ปริโกซิน หัวหน้ากลุ่มนักรบรับจ้างแวกเนอร์ ประกาศก่อกบฏและเคลื่อนทัพบุกเข้ามายังรัสเซียแทน

ชาวรัสเซียต้องประหลาดใจเมื่อมีรายงานข่าวว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ออกแถลงการณ์ด่วน โดยมีใจความว่าถ้อยแถลงและข้อความทั้งหมดที่เผยแพร่ในสังคมออนไลน์เกี่ยวกับกลุ่มแวกเนอร์และเยฟเกนี ปริโกซิน ว่ากลุ่มแวกเนอร์เตรียมที่จะก่อกบฏนั้นล้วนเป็นข่าวปลอม และเป็นแค่การยั่วยุเท่านั้น

ปูตินแถลงกรณีแวกเนอร์ก่อกบฏ ลั่น “คนทรยศต้องถูกลงโทษ”

“แวกเนอร์” อ้างยึดรอสตอฟสำเร็จ เตรียมเคลื่อนพลไปกรุงมอสโก

รัสเซียประกาศใช้ “ระบอบต่อต้านการก่อการร้าย” ในมอสโกและโวโรเนจ

ขณะเดียวกันที่เมืองรอสตอฟออนดอน เมืองทางตอนใต้ของรัสเซียซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากชายแดนยูเครน กลับปรากฏภาพของรถถังทหารไม่ทราบฝ่ายแล่นออกมาประจำการยังใจกลางเมือง

ด้านกรุงมอสโก เมืองหลวง คนรัสเซียแชร์ภาพของยานยนต์ทางการทหารแล่นเข้ามาในเมืองหลวงเช่นกันช่วงเวลาดังกล่าวเป็นเวลาหลังเที่ยงคืนไม่นาน บ่งชี้ถึงสถานการณ์ตึงเครียดด้านความมั่นคง และมีแนวโน้มว่า กลุ่มแวกเนอร์จะไม่ได้แค่ยั่วยุตามที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวอ้าง

เกิดอะไรขึ้นในรัสเซียช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา?

ย้อนไปในวันศุกร์ที่ 23 มิ.ย.66 ปริโกซิน หัวหน้ากลุ่มแวกเนอร์ออกแถลงการณ์เป็นคลิปเสียงในแพลตฟอร์มเทเลแกรม ระบุว่า กองกำลังรัสเซียโจมตีทางอากาศใส่หน่วยทหารแวกเนอร์ของเขา แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าการโจมตีเกิดขึ้นที่ไหน

นอกจากนั้นปริโกซินยังระบุด้วยว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองกำลังรัสเซียได้เปิดฉากยิงใส่พลเรือน ส่งผลให้กลุ่มแวกเนอร์ต้องยิงเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว

ถ้อยแถลงเต็มไปด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว และต่อมาปริโกซินก็ได้ประกาศว่า แวกเนอร์จะก่อกบฏ และตั้งเป้าที่จะโค่นล้ม เซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้ได้

นอกจากนี้กลุ่มแวกเนอร์ได้เคลื่อนทัพข้ามพรมแดนจากยูเครนเข้ามายังเมืองรอสตอฟออนดอนของรัสเซียแล้ว พวกเขาระบุว่า เป็นการเคลื่อนขบวนเพื่อความยุติธรรม โดยแวกเนอร์จะไม่โจมตีใคร แต่หากบุคคลใดก็ตามเข้ามาขวางทาง แวกเนอร์จะตอบโต้อย่างถึงที่สุด

คำประกาศก่อกบฏของกลุ่มแวกเนอร์เป็นที่มาของรายงานข่าวด่วน ทั้งยังส่งผลให้ทางการกรุงมอสโกตรึงกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกันอย่างเข้มงวด จากภาพคือบริเวณจัตุรัสแดงใจกลางกรุงมอสโก สถานที่ ๆ เป็นแลนด์มาร์คสำคัญ

กลุ่มแวกเนอร์ยึดศูนย์บัญชาการทหารรัสเซีย ในเมืองรอสตอฟ

ภายหลังประกาศดังกล่าว ตลอดคืนที่ผ่านมายังไม่มีเหตุการณ์โจมตีจากกลุ่มแวกเนอร์ แต่มีรายงานข่าวท้องถิ่นระบุว่า ศูนย์บัญชาการทางการทหารของเมืองรอสตอฟออนดอนถูกทหารแวกเนอร์ล้อมไว้ รวมถึงถึงอาคารทางการทหารอื่นๆ ในเมืองรอสตอฟออนดอน และอาคารของหน่วยข่าวกรองรัสเซียหรือ FSB ก็ถูกล้อมไว้เช่นกัน

จากนั้นในช่วงเช้าของวันนี้ 24 มิ.ย. 2566 เยฟเกนี ปริโกซิน ออกแถลงการณ์ โดยครั้งนี้เป็นภาพวิดีโอถ่ายจากเมืองรอสตอฟออนดอน ยืนยันข่าวลือที่ว่า กลุ่มแวกเนอร์ยึดอาคารทางการทหารของเมืองได้

ปริโกซินยัง ระบุว่า หน่วยทหารหน่วยหนึ่งของเขาถูกเฮลิคอปเตอร์ของรัสเซียโจมตีขณะที่กำลังเคลื่อนพลอยู่บนไฮเวย์แห่งหนึ่งของเมืองและเล่าด้วยว่า ที่ผ่านมาฝ่ายแวกเนอร์ต้องสูญเสียกำลังพลไปมาก เพราะขาดการสนับสนุนจากทางกระทรวงกลาโหมรัสเซีย

ด้านฝ่ายรัฐบาลรัสเซีย นอกเหนือจากการตั้งรับทางการทหารและวางกำลังเจ้าหน้าที่คอยตตรวจตราแล้ว มีรายงานจากเซอร์เกย์ ซอบยานิน นายกเทศมนตรีกรุงมอสโก ระบุว่า ขณะนี้ทางการกำลังดำเนินมาตรการตามแนวทางการรับมือกับเหตุก่อการร้าย ในจำนวนนี้มีข้อกำหนดด้านความปลอดภัย เช่น ให้เจ้าหน้าที่ควบคุมการสัญจรบนท้องถนน หรือกำหนดจำนวนคนในสถานที่สาธารณะเพื่อความปลอดภัยเป็นต้น

และล่าสุดมีเสียงเตือนจาก พลเอก เซอร์เกย์ ซูโรวิกิน รองผู้บัญชาการด้านปฏิบัติการทางการทหารในยูเครนระบุว่า ขอให้แวกเนอร์ถอยทัพกลับไป ก่อนที่จะสายเกินแก้ พร้อมเตือนด้วยว่า ความแตกแยกภายในของรัสเซียเองจะยิ่งช่วยให้ศัตรูเอาชนะได้ง่ายขึ้น

หัวหน้ากลุ่ม "แวกเนอร์" แฉรัสเซียกุเรื่อง อ้างความชอบธรรมบุกยูเครน

อีกความน่าสนใจของข้อมูลมากมายที่เผยแพร่จากปริโกซิน ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา คือ เนื้อหาที่ว่า ปฏิบัติการทางการทหารที่รัสเซียอ้างว่าต้องปลดปล่อยผู้คนจากยูเครนจนนำมาสู่การต่อสู้ในสงครามนั้น ปริโกซิน ระบุว่า เป็นเรื่องแหกตา โดยเหตุผลทั้งหมดที่กระทรวงกลาโหมรายงาน เช่น นาโตจะเปิดฉากโจมตี หรือคนที่พูดภาษารัสเซียกำลังถูกประหัตประหารนั้นล้วนเป็นเรื่องแต่งเพื่อที่รัสเซียจะได้มีความชอบธรรมในการบุกยูเครน และเพื่อที่เซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของรัสเซียจะได้ขึ้นเป็นวีรบุรุษของชาติ

ปริโกซิน ระบุอีกว่า ที่ผ่านมายูเครนไม่เคยดำเนินการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ใด ๆ ในภูมิภาคทางตะวันออกของประเทศตามที่รัสเซียกล่าวอ้าง นับเป็นการกล่าวโจมตีและวิพากษ์วิจารณ์รัสเซียครั้งใหญ่แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน หลังที่ผ่านมา ปริโกซินเคยกล่าวโทษกระทรวงกลาโหมรัสเซียมาบ้างในกรณีที่ไม่ส่งกระสุนหรือส่งกำลังพลช่วยรบ

รู้จักกลุ่ม "แวกเนอร์" ทหารรับจ้างรัสเซีย หัวหอกสำคัญบุกยูเครน

สำหรับกลุ่มแวกเนอร์เป็นทหารรับจ้างจากบริษัทของรัสเซีย ผู้ก่อตั้งคือ เยฟเกนี ปริโกซิน อดีตพ่อครัวคนสนิทของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน โดยตลอดสงครามที่ผ่านมา แวกเนอร์เป็นแนวหน้าในการสู้รบ โดยเฉพาะในสมรภูมิเมืองบัคมุต เมืองทางตะวันออกที่รัสเซียต้องการจะยึดให้ได้

ในบรรดาทหารรับจ้างยังมีอาชญากรที่ทางการรัสเซียปล่อยออกจากเรือนจำให้มาเข้าร่วมกับแวกเนอร์ด้วย โดยตั้งเงื่อนไขว่าหากชนะสงคราม พวกเขาก็จะพ้นโทษไม่ต้องถูกคุมขังอีกต่อไป

ขณะที่ ภาพรวม กลุ่มแวกเนอร์เป็นทหารเดนตาย พวกเขาเป็นหัวหอกสำคัญในสงครามครั้งนี้ แต่กระนั้นดูเหมือนว่าความสำคัญของแวกเนอร์กลับไปขัดขากับกองกำลังทหารรัสเซียที่ดำเนินงานภายใต้กระทรวงกลาโหม

จากประเด็นดังกล่าวดูเสมือนเสือสองตัวในถ้ำเดียวกัน โดย ปริโกซิน แสดงออกถึงความขัดแย้งและความตึงเครียดที่คุกรุ่นมาตลอดกับ เซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซียรวมถึงฝั่งชอยกูก็ต้องการที่จะควบคุมกองทหารอิสระนี้ทั้งหมด เช่น กำหนดให้แวกเนอร์ต้องลงนามในสัญญาเข้ามาอยู่ใต้อำนาจควบคุมของทางกระทรวงภายในวันที่ 1 ก.ค. 2566ซึ่งข้อนี้ปริโกชินไม่เห็นด้วยคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

"ปูติน" แถลงด่วน แวกเนอร์ก่อกบฏต้องถูกลงโทษ

ล่าสุดเมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ออกแถลงการณ์ ระบุว่า การเคลื่อนกำลังพลเข้ามาพร้อมอาวุธของกลุ่มแวกเนอร์ถือเป็นการก่อกบฏ เป็นการกระทำที่ทรยศต่อชาติ

โดย ปูติน ให้คำมั่นว่าจะยุติความพยายามนี้ และคนที่ก่อเหตุจะต้องได้รับบทลงโทษนอกจากนั้นผู้นำประเทศยังย้ำถึงความสำคัญของการปกป้องประเทศและการสร้างความสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียว

ทั้งนี้ตามกฎหมายรัสเซีย บทลงโทษฐานเป็นกบฏมีโทษจำคุกสูงสุดถือ 20 ปี มากกว่านั้น เยฟเกนี ปริโกซิน หัวหน้ากลุ่มแวกเนอร์อาจเผชิญกับข้อหาดูหมิ่นกองทัพรัสเซียและความผิดจากข้อหาเผยแพร่ข่าวปลอมด้วย

อย่างไรก็ตามรายงานแม้จะมีเสียงเตือนและเสียงปรามมากมาย แต่หลายฝ่ายเชื่อกันว่า ปริโกซิน จะยังคงมุ่งมั่นที่จะเคลื่อนทัพแวกเนอร์เข้าสู่กรุงมอสโก

ผู้เชี่ยวชาญ ประเมิน กลุ่ม "แวกเนอร์" ก่อกบฏ เป็นเรื่องท้าทาย "ปูติน" ในรอบ 20 ปี ส่อเป็นปัญหาใหญ่รัสเซีย

สถานการณ์ตึงเครียดในรัสเซียกลายเป็นข่าวใหญ่ทั่วโลก กระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักร ทยอยอัพเดทสถานการณ์เป็นระยะ พร้อมยืนยันว่ากลุ่มแวกเนอร์ยึดเอาสถานที่ทางการทหารของเมทองรอสตอฟออนดอน ได้เป็นที่เรียบร้อย นอกจากนั้นยังมีรายงานด้วยว่า ทหารที่สังกัดกองกำลังรัสเซียจำนวนหนึ่งแปรพักตร์ไปสมทบกับกลุ่มแวกเนอร์

และในช่วงเวลาที่สถานการณ์กำลังคุกรุ่น ไม่มีใครทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างแบบนี้ ล่าสุดสำนักข่าว Express ของสหราชอาณาจักรรายงานว่า อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ประธานาธิบดีเบลารุส ผู้เป็นพันธมิตรคนสำคัญของประธานาธิบดีปูตินได้เดินทางออกจากเบลารุสไปแล้วเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา

ด้านสำนักข่าวอัลจาซีราเผยบทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารในกรุงมอสโก พาเวล เฟลเกนฮาเออร์ ชี้ว่า สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนี้น่าจะเป็นวิกฤตที่ท้าทายที่สุดแล้วสำหรับปูตินในรอบ 20 ปี ที่ชายคนนี้อยู่ในอำนาจมา เนื่องจากเป็นศึกในบ้านตัวเอง อีกทั้งยังเป็นสถานการณ์ที่น่ากังวลอย่างมาก เนื่องจากแวกเนอร์มีสมาชิกจำนวนมาก หากสมทบกับทหารที่แปรพักตร์ วิกฤตความขัดแย้งนี่อาจนำไปสู่การเกิดสงครามกลางเมืองครั้งใหม่

อีกสัญญาณของความรุนแรงมาจาก รามซาน คาดิรอฟ หัวหน้ากลุ่มเชเชน ทหารอีกกลุ่มที่สนับสนุนกองกำลังรัสเซียออกมาประกาศในวันนี้แล้วว่า กองกำลังเชเชนพร้อมที่จะช่วยกระทรวงกลาโหมรัสเซียปราบกลุ่มกบฏแวกเนอร์

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ยังต้องติดตาม ในมุมของผู้เชี่ยวชาญมองว่า อีกตัวแปรสำคัญของวิกฤตนี้คือบรรดาพลทหารตัวเล็กตัวน้อย หากคนเหล่านี้เข้าร่วมกับแวกเนอร์ก็จะยิ่งเป็นปัญหาให้กับรัสเซีย